ก้าวต่อไปของ Netflix
ยักษ์ล้มไปอีกราย นั้นคือ BLOCKBUSTER ขาใหญ่แ่ห่งวงการเช่นหนัง DVD ของ อเมริกา ที่ล่าสุด เตรียม เข้า Chapter 11 ไปอีกราย ซึ่งทาง Blockbuster นั้นมีสาขาอยู่ประมาณ 3400 สาขา ซึ่ง ถ้านับปีที่แล้วมีมากกว่านี้ เพราะ เพิ่งปิดไป 1000สาขา และ อีก 800 สาขา อาการน่าเป็นห่วง
ปัญหาที่ BlockBuster เจอนั้นคือ ลูกค้าหดหายเพราะ เทคโนโลยีเขาไปไกลถึงไหนแล้ว ทั้ง VDO on Demand , Internet Rental service หรือ แม้นแต่ Netflix ที่ จัดส่ง ให้ ถึงหน้าบ้านไม่มี Late fee ด้วย อยากเก็บไปดูนานเท่าไหร่ก็ได้ (จั๋ยชอบมาก เป็นลูกค้าตอนเรียนที่เมกาด้วยนะเออ)
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ธุรกิจหลัก ๆ ของ Netflix นั้น ไม่ได้ทำเงิน ได้ ถล่มทะลายอย่างที่ Blockbuster คิด แต่ธุรกิจที่ทำเงินให้ Netflix จริง ๆ นั้นคือ บริการ VDO Streaming ซึ่งรายได้ดีไม่ดีไม่รู้ รู้แต่ว่า Netflix จ่ายค่าลิขสิืทธ์ ให้ paramount , Lionsgate , MGM เป็นเงิน หลัก พันล้านเหรียญอย่างสบาย ๆ นั้น แสดงว่า รายได้จาก VDO Streaming นั้นไม่ธรรมดา
ซึ่งหนทางทำมาหากินของ Netflix ยังอีกยาว เพราะ คู่แข่งโดยตรง (direct competitors ) อย่าง HULU , YouTube และ Boxee ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ขนาด Apple เองก็เพิ่งจับธรุกิจนี้ (Apple TV)
ทั้งนี้ ทาง PS3 กับ Xbox 360 ก็มีกันไปแล้วกับระบบดูภาพยนตร์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตหรือการสั่งเช่าภาพยนตร์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตของ Netflix ซึ่งล่าสุดทาง Nintendo เองก็ได้ทำสัญญานำบริการ Netflix มาไว้ในเครื่อง Wii ของตัวเองเช่นกัน
และหลังจากที่เปิดตัวให้บริการไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2010 ที่ผ่านมา CEO Nintendo of America นาย Reggie Fils-Aime ก็ได้ออกมาประกาศอย่างภูมิใจต่อ CNBC ว่า ?ตั้งแต่เปิดให้บริการ ตอนนี้มีจำนวนผู้ใช้ Wii ?เข้าร่วม? บริการ Netflix แล้วเกือบๆ 1 ล้านคน
และหลังจากที่เปิดตัวให้บริการไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2010 ที่ผ่านมา CEO Nintendo of America นาย Reggie Fils-Aime ก็ได้ออกมาประกาศอย่างภูมิใจต่อ CNBC ว่า ?ตั้งแต่เปิดให้บริการ ตอนนี้มีจำนวนผู้ใช้ Wii ?เข้าร่วม? บริการ Netflix แล้วเกือบๆ 1 ล้านคน
Netflix คว้าตัวเลข 61% ครองอันดับหนึ่งในตลาดวีดีโอดิจิตอลสหรัฐฯ

ธุรกิจวีดีโอดิจิตอลกำลังขยาย ตัวขึ้นต่อเนื่อง เมื่อสำนักวิจัยเอ็นดีซีกรุ๊ป เผยผลสำรวจว่า เน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการภาพยนตร์ดิจิตอลและสตรีมมิ่ง มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 61% เมื่อเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนคอมแคสจะตามมาเป็นลำดับสองด้วยส่วนแบ่ง 8% และครองอันดับสามร่วมกับสามเจ้าด้วยส่วนแบ่ง 4% อันได้แก่ ไดเร็กซ์ทีวี, ไทมส์วอเนอร์ เคเบิ้ล และแอปเปิ้ล
โดยผลสำรวจดัง กล่าวได้ทำการสอบถามผู้คนกว่า 10,600 คนเพื่อประเมินผลว่า ชาวอเมริกันนิยมบริโภควสื่อมีเดียผ่านทางการสมัครสมาชิกตรีมมิ่ง, วีดีโอออนดีมานด์ รวมถึงการซื้อและเช่าออนไลน์ ซึ่งนักวิเคราะห์รายหนึ่งของเอ็นพีดีเชื่อว่า สาเหตุที่ส่วนแบ่งการตลาดมีตัวเลขแบบก้าวกระโดดนั้น ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะเรื่องราคา หากแต่ยังรวมถึงภาพลักษณ์โดยรวมด้วย ซึ่งถึงแม้ว่า แอปเปิ้ลสโตร์ที่ดูจะมีสินค้าให้เลือกซื้อและทันสมัย เทียบกับเน็ตฟลิกซ์ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือนนั้น เน็ตฟลิกซ์สามารถมอบประสบการณ์การสตรีมมิ่งได้ดีกว่า ส่วนยอดขายดีวีดีและแผ่นบลูเรย์นั้นก็ยังคงขับเคลื่อนได้อยู่สำหรับการรับชม ภายในบ้าน แต่ขณะเดียวกันบริการวีดีโอออนดีมานด์และตัวเลือกสื่อดิจิตอลอื่นๆ ก็กำลังเริ่มบุกตลาดแล้ว ซึ่ง Russ Crupnick นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมบันเทิงของเอ็นพีดี กล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่าแผ่นดิสก์จะหายไปจากตลาด หากแต่การเข้าถึงข้อมูลดิจิตอลอาจจะมีการผลัดเปลี่ยนเป็นการสตรีมมิ่งและ ดาวน์โหลดแทน เมื่อปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีทองของเน็ตฟลิกซ์ เมื่อมีผู้ใช้สมัครเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 7.7 ล้านคน และในปีนี้บริษัทก็ยังมีแผนที่จะขยายบริการไปยังประเทศอื่นๆ ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น